“นัตโตะ” ถือเป็นอาหารญี่ปุ่นโบราณ ทำมาจากถั่วเหลืองต้มและนำไปหมักจนเกิดแบคทีเรียชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งบางคนเรียกนัตโตะว่า ถั่วเน่า เนื่องจากรสสัมผัสที่เข้าถึงยากของนัตโตะ ทำให้มีผู้คนมากมายชื่นชอบ แต่ก็มีผู้คนบางส่วนที่รับไม่ได้เช่นกัน ทุกวันนี้ก็ยังคงมีผู้คนไม่น้อยที่อยากจะลองชิมนัตโตะดูสักครั้ง เพื่อจะได้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่า อร่อยสมคำร่ำลือจริงหรือไม่ สำหรับใครที่คิดจะลองทานนัตโตะดูสักครั้ง รีวิวนี้ผู้เขียนขอแนะนำ นัตโตะยี่ห้อดังที่หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปอย่าง “อะไซจิบัน ฮอกไกโด นัตโตะ”
รสชาติอันแสนแปลกประหลาดของ อะไซจิบัน ฮอกไกโด นัตโตะ
นัตโตะถือเป็นอาหารที่หาซื้อได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น แต่ในประเทศไทยไม่ค่อยมีวางจำหน่ายกันเท่าไหร่ มีบ้างตามร้านขายอาหารต่างประเทศ อย่างท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต คนส่วนใหญ่จึงนิยมสั่งผ่านทางออนไลน์มากกว่า ซึ่งอะไซจิบัน ฮอกไกโด นัตโตะ ที่มารีวิวนี้ จะวางขายพร้อมกัน 3 แพค ในราคา 98 บาท ยี่ห้อนี้ มี 2 สีให้เลือก คือ สีขาวและสีแดง สีแดงจะเป็นรสเข้ม ส่วนสีขาวจะเป็นรสอ่อน ซึ่งทั้ง 2 รสชาติจะแตกต่างกันที่ความเข้มของถั่วเหลือง โดยเบื้องต้นรสชาติของนัตโตะนั้น จะมีความขมและกลิ่นตุๆคล้ายเมล็ดกาแฟ นัตโตะที่รสอ่อนจะไม่ค่อยขมเท่ารสเข้ม
ในส่วนของแพ็คเกจนั้น นัตโตะจะถูกใส่มาในถ้วยโฟม ซึ่งทำมาจากวัตถุดิบปลอดสารพิษไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซีลปิดสนิทด้วยแผ่นพลาสติกบางๆ เมื่อแกะออกมาจะมีพลาสติกใสคลุมอีกชั้น บางกล่องดึงออกง่ายๆ แต่บางกล่องจะติดใยเหนียวๆของนัตโตะค่อนข้างดึงออกยากหน่อย วิธีการกินง่ายๆ เพียงแค่ดึงพลาสติกที่อยู่บนหน้านัตโตะออก จากนั้นใส่เครื่องปรุงที่ให้มา 2 อย่างคือ โชยุและมัสตาร์ด โชยุมีรสเค็ม หอม หวานนิดๆเหมือนซอสแม็กกี้ ช่วยปรุงรสให้นัตโตะกลมกล่อมมากขึ้น ส่วนมัสตาร์ดจะมีความเผ็ด ร้อน คล้ายกับวาซาบิ ช่วยกลบกลิ่นเหม็นหืนของถั่วเน่าได้ โดยขั้นตอนการกินนั้น ให้ใช้ตะเกียบหรือช้อนคนนัตโตะ เทคนิคการกินจะมีหลากหลาย เช่น คนไปทางขวา 50 ครั้ง คนไปทำซ้าย 20 ครั้ง
คนไปทางไหนก็ได้ 100 ครั้ง จากนั้นใส่เครื่องปรุงลงไปแล้วคนต่ออีก 50 ครั้ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคนว่าจะลองใช้วิธีไหน มีคำพูดที่บอกต่อๆกันมาว่า ยิ่งคนเยอะเท่าไหร่ ยิ่งอร่อยมากขึ้นเท่านั้น ฟองเหนียวยืดที่เคลือบอยู่บนนัตโตะจะอร่อยนุ่มมากยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวแล้ว รสชาติของนัตโตะ ไม่ค่อยถูกโฉลกเท่าไหร่ ทานได้ รสสัมผัส มัน เค็มและกลิ่นคล้ายกับถั่วเน่าของไทย ทางภาคเหนือหรือกลิ่นของกาแฟนิดๆ แต่ตุๆกว่า ซึ่งไม่ได้มีปัญหากับส่วนนี้ ส่วนที่ทำให้กินต่อยากจนถึงขั้นกินต่อไม่ได้เลย คือ ยางเหนียวหนืดที่กินเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนน้ำลายยืดๆ พยายามกินกับข้าวสวยแล้วก็ไม่รอด
รีวิวทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล รสนิยมด้านการกินของแต่ละคนแตกต่างกัน อาจมีคนที่กินแล้วรู้สึกชื่นชอบมากกว่าผู้เขียนก็เป็นได้ แต่โดยส่วนตัวผู้เขียนกินแล้วบอกเลยว่า เข็ด ซึ่งหากใครที่กินนัตโตะแล้วไม่ถูกใจเหมือนกัน อาจลองใช้วิธีประยุกต์โดยการนำมาทำเป็นยำแบบไทยหรือตำเป็นน้ำพริกกินกับผักต่างๆ อาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย รีวิวร้านอาหารอร่อย รีวิวคาเฟ่ รีวิวของใช้ในบ้าน รีวิวของใช้ในออฟฟิต